วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์

ระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์

           ระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ประกอบด้วย  ฮาร์ดแวร์  ซอฟต์แวร์  ข้อมูล  บุคลากร   กระบวนงาน   และโทรคมนาคมซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อทำการรวบรวม  จัดการ  จัดเก็บและประมวณผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศดังนี้
            1.ฮาร์ดแวร์ คือ  อุปกรณ์ทางกายภาพซึ่งก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์และหน่วยงานประมวณผลต่างๆ
            2.ซอฟต์แวร์  ประกอบด้วยกลุ่มของโปรแกรมที่ใช้ในการปฏิบัติงานร่วมกับฮาร์ดแวร์และใช้ในการประมวณผลข้อมูลเป็นสารสนเทศ
            3.ข้อมูล  ในส่วนนี้หมายถึง  ข้อมูลและสารสนเทศที่ถูกเก็บอยู่ในฐานข้อมูล   โดยฐานข้อมูล หมายถึง  กลุ่มของข้อมูลและสารสนเทศที่มีความเกี่ยวข้องกัน
            4.บุคลากร  หมายถึง   บุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานคอมพิวเตอร์ทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ จนถึงผู้อำนวยการคอมพิวเตอร์
            5.กระบวนงาน  หมายถึง  กลุ่มของคำสั่งหรือกฎหมายที่แนะนำวิธีการปฎิบัติงานกับคอมพิวเตอร์ในระบบสารสนเทศ
            6.การสื่อสารข้อมูล  หมายถึง  การส่งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์เพื่อติดต่อสื่อสารและช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมระบบคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบเครอข่าย

ระบบสารสนเทศ

ระบบสารสนเทศ

       ระบบสารสนเทศ  หมายถึง   ระบบที่ดำเนินการจัดการข้อมูลข่าวสารในองค์กรให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างเป็นระบบระเบียบ  โดยมีกรือไม่มีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องก็ได้  แต่ในที่นี้จะหมายถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ได้มาเพื่อสารสนเทศเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในเวลาอันรวดเร็วและถูกต้องที่สุด  ดังนั้นระบบสารสนเทศในที่นี้จึงประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์  ซอฟต์แวร์   ผู้ใช้  กระบวนการ   และตัวข้อมูลหรือสารสนเทศโดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนสามารถตรวจสอบและประเมินผลระบบได้

การจัดการข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ

การจัดการข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ

     การทำข้อมูลให้เป็นสารสนเทศที่จะเป็นประโยขน์ต่อการใช้งาน   จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินการ  เริ่มตัั่งแต่การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล   การดำเนินการประมวณผล ข้อมูลให้กลายเป็นสารสนเทศ   และการดูแลรักษาสารสนเทศเพื่อการใช้งาน  ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
     1.การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล   ควรประกอบด้วย
         1.การเก็บรวบรวมข้อมูล  เป็นเรื่องของการเก็บรวบร่วมข้อมูลซึ่งมีจำนวนมาก  และต้องเก็บให้ได้อย่างทันเวลา
         2.การตรวจสอบข้อมูล  เมื่อมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วจำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อมูล   เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง  ข้อมูลที่เก็บเข้าในระบบจะต้องมีความเชื่อถือได้
      2.การดำเนินการประมวณผลข้อมูลให้กลายเป็นสารสนเทศ  ประกอบด้วยกิจการดังต่อไปนี้
         1.การจัดแบ่งข้อมูล  ข้อมูลที่จัดเก็บจะต้องมีการเก็บการแยกกลุ่มเพื่อเตรียมไว้สำหรับการใช้งาน  การแบ่งแยกกลุ่มมีวิธีการที่ชัดเจน
         2.การจัดเรียงข้อมูล  เมื่อจัดแบ้งกลุ่มเป็นแฟ้มแล้ว  ควรมีการจัดเรียงข้อมูลตามลำดับตัวเลข  หรืออักษร
         3.การสรุปผล  บางครั้งข้อมูลที่จัดเก็บมีเป็นจำนวนมาก  จำเป็นต้องมีการสรุปผลหรือสร้างรายงานย่อ  เพื่อนำไปใช้ประโยชน์
         4.การคำนวณ  ข้อมูลที่เก็บมีเป็นจำนวนมาก  ข้อมูลบางส่วนเป็นข้อมูลตัวเลขที่สามารถนำไปคำนวณเพื่อหาผลลัพธ์บางอย่างได
        3.การดูแลรักษาสารสนเทศเพื่อการใช้งาน  ประกอบด้วย
          1.การเก็บรักษาข้อมูล  หมายถึง  การนำข้อมูลมาบันทึกเก็บรักษาไว้ในสื่อบันทึกต่างๆ
          2.การค้นหาข้อมูล   ข้อมูลที่จัดเก็บไว้มีจุดประสงค์ที่จะเรียนใช้งานได้ต่อไป
          3.การทำสำเนาข้อมูล  การทำสำเนาเพื่อที่จะนำข้อมูลเก็บรักษาไว้
          4.การสื่อสาร  ข้อมูลต้องกระจายหรือส่งต่อไปยังผู้ใช้งานที่ห่งไกลได้ง่าย

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สารสนเทศ

  

สารสนเทศ

         สารสนเทศหมายถึง  ข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์  เพราะได้ผ่านการประมวณผลด้วยวิธีการที่เหมาะสมและถูกต้อง  เพื่อให้ได้ผลลลัพธ์ตรงตามความต้องการของผู้ใช้
         1.ความถูกต้องแม่นยำ  พิจารณาได้จากอัตราส่วนของสารสนเทศที่ถูกต้องกับจำนวนสารสนเทศที่ผลิตขึ้นมาทั้งหมดในช่วงเวลาหนึ่ง
          2.ความทันต่อการใช้งาน  พิจารณาจากสถานการณ์  เงื่อนไขเวลา    ที่จำเป็นต้แงใช้ข้อสนเทศกับข้อสนเทศที่ได้  มิได้หมายถึงความรวดเร็วในการเก็บข้อมูล
           3.ความสมบูรณ์และกะทัดรัด   พิจารณาจากการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงที่กระจัดกระจายให้ได้ปริมาณมากพอ  ครอบคลุมประเด็นที่ต้องใช้ประโยชน์ในเรื่องนั้นๆ
           4.สอดคล้องต่อความต้องการ  พิจารณาจากความต้องการในการรับรู้ของผู้ที่เกี่ยวข้อง   รวมถึงสารสนเทศที่จำเป็นต่อภารกิจ
            5.เข้าใจง่าย  สารสนเทศที่มีคุณภาพจะต้องเข้าใจง่าย   ไม่ซ้ำซ้อนต่อความเข้าใจ
             6.เชื่อถือได้   สารสนเทศที่เชื่อถือได้  วิธีการรวบรวมข้อมูลต้องมีความหน้าเชื่อถือ
             7.คุ้มราคา  สารสนเทศที่ผลิตควรจะต้องมีความประหยัด  เหมาะสมคุ้มค่ากับราคา
             8.ตรวจสอบได้  สารสนเทศจะต้องสวดสอบความถูกต้องได้
             9.สะดวกในการเข้าถึง   สารสนเทศจะต้องง่ายและสะดวกต่อการเข้าถึงข้อมูลตามระดับ
            10.ปลอดภัย  สารสนเทศจะต้องถูกออกแบบและจัดการให้มีความปลอดภัย

ข้อมูล

       

ข้อมูล

      ข้อมูล  หมายถึง   ข้อเท็จจนิงหรือรายละเอียดของสิ่งที่สนใจ    ไม่ว่าจะเป็นตน  สัตว์  สิ่งของ หรือเหตูการณ์ต่างๆ ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้อาจอยู่ในรูปต่างๆ เช่น  ตัวเลข  ข้อความ  ภาพ  เสียง  และวีดีทัศน์  ดังนั้น  การเก็บข้อมูลจึงเป็นการเก็บรวบรวมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสิ่งที่สนใจนั้นเอง  ข้อมูลจึงหมายถึง   ตัวแทนของข้อเท็จจริง  หรือความเป็นไปของสิ่งที่สนใจ
    คุณสมบัติของข้อมูลที่ดี
  1.ความถูกต้องแม่นยำ  หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้  จะทำให้เกิดผลเสียอย่างมาก ผู้ใช้จะไม่กล้าอ้างอิงหรือนำเอาไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นเหตุให้ตัดสินใจของผู้บริหารขาดความแม่นยำ  และอาจมีโอกาสผิดพลาดได้
  2.มีความเป็นปัจจุบัน  การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้มีการตอยสนองต่อผู้ใช้ได้เร็ว  ตีความหมายสารสนเทศได้ทันต่อเหตูการณ์หรือความต้องการมีการออกแบบการเรียกค้น  และรายงานตามความต้องการของผู้ใช้
  3.ความสมบูรณ์ครอบถ้วน  ความสมบูรณ์ของสารสนเทศขึ้นกับการรวบรวมข้อมูลและวิธีการทางปฎิบัติด้วย  ในการดำเนินการจัดทำสารสนเทศต้องสำรวจและสอบถามความต้องการใช้ข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ในระดับหนึ่งที่เหมาะสม
  4.ความกะทัดรัด  การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมากจึงจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างข้อมูลให้กะทัดรัด
  5.ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ความต้องการเป็นเรื่องสำคัญดังนั้น  จึงต้องมีการสำรวจเพื่อหาความต้องการของหน่วยงานและองค์กร

ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านต่างๆ

ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านต่างๆ

       การกำเนินของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณ 50  กว่าปีที่แล้ว   นับเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ยุคสารสนเทศ  ในช่วงแรกมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคำนวณ  ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูล  เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น   ทำให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมกล่าวดังนี้
     1.การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น   สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง  มีการพัฒนาใช่ระบบสื่อสารโทรคมนาคม   เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น  มรการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภาวยในบ้าน เช่น  ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ   ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องซักผ้า  ใช่ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
     2.เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส  เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่งทุกหนแห่งแม้แต่ถิ่นทุรกันดาร   ทำให้มีการกระจายโอกาสการเรียนรู้มีการใช่ระบบการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม
     3.สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน  การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้เช่น  วีดีทัศน์  เครื่องฉายภาพ   คอมพิวเตอร์ช่วยสอนคอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา
     4.เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม  การจัดการทรัพยากรธรรมชาตฺหลายยอย่างจำเป็นต้องใช้สารสนเทศ เช่น  การดูแลรักษาป่า  จำเป็นต้องใช้ข้อมูล  มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม การติดตามสภาพข้อมูลสภาพอากาศ
      5.เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ  กิจการทางด้านการทหารมรการใช้เทคโนโลยี  อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล่วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม  มีการใช้ระบบป้องกันภัย  ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงาน
      6.การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม  การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็นต้องหาวิธีการในการผลิตให้ได้มาก  และให้ราคาถูกลง เพื่อได้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น

ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในการประกอบการทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการอุตสาหกรรม จำเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทำให้เกิดระบบอัตโนมัติ เราสามารถฝากถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถให้บริการได้ดีขึ้น ทำให้การบริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดำเนินการและการตัดสินใจ ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทำงาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆ จึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมุลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใข้ในองค์การประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี ในองค์การทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้
  • เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคำนวณ และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น